AgTech

ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ทำไมเกษตรกรไทยถึงยังไม่สามารถหลุดพ้นจากความยากจน และการลงทุนที่ไม่คุ้มเหนื่อย ด้วยปัญหานานัปการที่แทรกอยู่ในทุกขั้นตอนของการเกษตร นี่จึงเป็นความท้าทายที่นักนวัตกรด้านการเกษตรยุคใหม่จะต้องเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา

เราอาจไม่รู้ว่ากว่าข้าวแต่ละกระสอบหรือผลไม้แต่ละลูกจะมาถึงโต๊ะอาหารได้ ต้องผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย เป็นข่าวดีที่ว่า ในปัจจุบันมีสตาร์ทอัพที่นำเทคโนโลยีเชิงลึกเข้ามาพัฒนาวงการเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง การเพาะปลูก การพัฒนาผลผลิต ไปจนถึงการขนส่งหลังเก็บเกี่ยว เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และมีผลผลิตสด ๆ ส่งตรงถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาดูกันดีกว่าว่า เรื่องระหว่างทางจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร จะมีนวัตกรรมอะไรที่เข้ามามีบทบาทบ้าง

ทุกเมล็ดที่ชาวนาหว่านไป หากต้องพึ่งพาให้ฟ้าฝนเป็นใจเพียงอย่างเดียวก็คงจะเสี่ยงเกินไป เพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังของชาติต้องเจ็บหนักจากการได้ผลผลิตไม่ตรงตามเป้า จึงมีความพยายามมากมายในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ดีขึ้น

เหมือนอย่าง Ricult สตาร์ทอัพผู้บุกเบิกเทคโนโลยีด้านการเกษตรในปากีสถานและไทย ที่นำเทคโนโลยีเชิงลึกด้านการวิเคราะห์สภาพอากาศมาผสมผสานกับเทคโนโลยีดาวเทียม เพื่อพัฒนาระบบที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยอุดช่องโหว่จากความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของสภาพอากาศ ด้วยการนำข้อมูลจากดาวเทียมมาประมวลผลและคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า ช่วยให้เกษตรกรสามารถประเมิน วางแผน และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศต่างๆได้ทั้งก่อนและระหว่างปลูก ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในไทยและทั่วโลกกว่า 3 แสนราย และเพิ่มประสิทธิผลของการทำการเกษตรไม่น้อยกว่า 15%

เกษตรกรไม่ว่าหน้าเก่าหน้าใหม่ที่สนใจอยากให้ฟาร์มของตัวเอง “ฉลาด” ยิ่งกว่าเดิม จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีล้ำๆ เพราะปัจจุบันได้มีแพลตฟอร์มการทำการเกษตรแบบอัตโนมัติ Evergrow ที่พัฒนาขึ้นโดยฝีมือคนไทย โดยนำเทคโนโลยี Automation controller และ Cloud application มาใช้ในการทำโรงเรือนอัตโนมัติ ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อย แต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า โดยระบบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ระบบคอมพิวเตอร์ ใช้ควบคุมอากาศ ความชื้น แสงแดด น้ำ แก๊สต่าง ๆ และ ระบบน้ำ ซึ่งจะมีซอฟต์แวร์คำนวณความร้อนและความชื้นในอากาศ ช่วยให้สามารถรดน้ำแค่เฉพาะเวลาที่จำเป็น เป็นการลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรด้วยอีกทาง

ฟังก์ชั่นสุดสมาร์ทเหล่านี้ เกษตรสามารถควบคุมได้เองทั้งหมดผ่านอินเตอร์เน็ต จึงไม่ต้องใช้แรงงานเยอะ และไม่ต้องเสียเวลามาดูแลบ่อยๆ รวมถึงหากอุปกรณ์ชำรุด ระบบไม่ทำงาน ก็ให้บริษัทแก้ไขให้ได้ทางออนไลน์ บริการดูแลลูกค้าจากที่ไหนก็ได้เช่นนี้ ทำให้โมเดลธุรกิจการเกษตรสุดสมาร์ทของ EverGrow ไม่เพียงเป็นที่นิยมแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังไปถึง จีน ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีอีกด้วย

ก่อนที่ผลผลิตจะไปสู่ผู้บริโภคในท้ายที่สุด มีนักวิจัยมากมายที่พยายามหาหนทางปรับปรุงผลิตภัณฑ์เกษตร เพื่อให้ทุกคำที่กินเข้าไปเปี่ยมด้วยคุณภาพและคุณประโยชน์ ที่ตอบโจทย์คนในสังคมมากกว่าเดิม เหมือนอย่างที่ทีมนักวิจัยจากออสเตรเลียได้พยายามต่อสู้กับปัญหาขาดสารอาหารในอูกันด้า ภายใต้โครงการวิจัย Banana21 โดยการปรับปรุงพันธุกรรมกล้วย East African Highland ซึ่งถือเป็นพืชอาหารหลักของชาวอูกันด้า แต่กลับมีสารอาหารน้อยกว่าสายพันธุ์กล้วยในภูมิภาคอื่น ๆ มากทีเดียว ทีมวิจัยได้ลองเพิ่มธาตุเหล็กและวิตามินเอเข้าไปในกล้วย และยังพัฒนาให้กล้วยสายพันธุ์นี้ทนโรค ทนแล้ง เพื่อให้ชาวอูกันด้าได้บริโภคกล้วยที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และเสริมภูมิต้านทานให้มีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม

ในฝั่งของประเทศไทยเองก็มีผลงานโดดเด่นไม่แพ้กัน เมื่อ JuiceInnov8 สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้วิจัยจนพบวิธีการที่จะช่วยลดน้ำตาลในน้ำผลไม้ โดยใช้จุลินทรีย์จากธรรมชาติที่ผ่านการคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์มาแล้ว นำมาเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานที่จำเป็นสำหรับกระบวนการเจริญเติบโต ส่งผลให้โมเลกุลน้ำตาลและปริมาณแคลอรี่ในน้ำผลไม้ลดลง ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถดื่มน้ำผลไม้ได้อย่างปลอดภัย

Freshket คือ แพลตฟอร์มตลาดสดออนไลน์ที่วางตัวเป็นศูนย์กลางวัตุดิบอาหาร คอยส่งวัตถุดิบมีคุณภาพทั้งสดและแห้งให้กับร้านอาหารและลูกค้ารายย่อย โดยไม่จำเป็นต้องสั่งสต็อกจำนวนมากเหมือนร้านอาหารเชนรายใหญ่ ช่วยให้แม่ค้าแม่ครัวตัวเล็กๆ ทั้งหลายสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบสดใหม่ ในราคาที่แบกรับไหว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของสดค้างสต็อกจนกลายเป็นต้นทุนที่ต้องเสียไปโดยใช่เหตุ

Freshket มีสินค้าให้เลือกกว่า 3,000 รายการ เมื่อร้านอาหารสั่งสินค้า ระบบจะส่งออเดอร์ให้ซัพพลายเออร์โดยไม่ผ่านคนกลาง ทำให้ร้านอาหารได้วัตถุดิบสดใหม่ทุกครั้งโดยที่ Freshket ไม่ต้องสต็อกของสดไว้ในระบบ อีกทั้งยังสามารถสั่งได้วันต่อวัน เพียงสั่งภายใน 4 ทุ่ม ก็จะได้รับสินค้าจัดส่งถึงที่ตอน 8 โมงเช้าของวันถัดไป นอกจากนี้ยังมีระบบหลังบ้านให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถเทียบราคาวัตถุดิบในตลาดได้ฟรีผ่านสมาร์ทโฟนด้วย

สำหรับในช่วงสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน Freshket ได้ทดลองเปิดบริการให้บุคคลทั่วไปสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบในราคาเดียวกับที่ส่งให้ร้านอาหารได้แล้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ไม่ต้องเสี่ยงออกไปจ่ายตลาดนอกบ้าน หรือกักตุนของสดไว้ในตู้เย็นแล้วกินไม่ทัน ใครกักตัวอยู่บ้านและชอบทำอาหารก็ลองโหลดแอพ Freshket มาใช้กันได้เลย

Facebook: NIAAcademyTH