เสน่ห์ ระลึก หวนหา
เสน่ห์ ระลึก หวนหา
มรดกทางวัฒนธรรมของไทยในปัจจุบันที่ยังหลงเหลืออยู่จะได้รับการอนุรักษ์และสืบสานต่ออย่างไร และมีทิศทางในการพัฒนาอย่างไรในอนาคต เมื่อต้องปรับตัวกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
มรดกทางวัฒนธรรมของไทยในปัจจุบันที่ยังหลงเหลืออยู่จะได้รับการอนุรักษ์และสืบสานต่ออย่างไร และมีทิศทางในการพัฒนาอย่างไรในอนาคต เมื่อต้องปรับตัวกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรมเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และน่าคิดต่อในการมองสภาพสังคมเมืองร่วมสมัยผ่านอดีตและมรดกทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับปัจจุบันและอนาคต
เรารู้จักช่างภาพสถาปัตยกรรมผู้นี้ครั้งแรกจากเพจที่รวบรวมภาพถ่ายสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ชื่อ Foto_momo ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้ง

ภาพอาคารที่เขาถ่ายส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมโมเดิร์นหลากหลายประเภท ไล่ตั้งแต่อาคารสำนักงาน ธนาคาร โรงภาพยนตร์ โรงแรม และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแทบทุกภาพที่เขาถ่ายล้วนมีรายละเอียดกำกับ ทั้งที่ตั้งอาคาร ปีที่สร้าง หรือชื่อสถาปนิกผู้ออกแบบ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีกระแสที่คนเริ่มหันมาสนใจสถาปัตยกรรมยุคเก่ากันมากขึ้น แต่อาคารเก่า ๆ ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกทุบทำลายอยู่ดี บางอาคารที่หายไปทำเอาหัวใจผู้คนที่เกี่ยวข้องเจ็บปวดคล้ายถูกทุบไปด้วย ขณะที่บางอาคารก็ตายไปอย่างเงียบเชียบคล้ายไม่เคยมีอยู่
มันอาจเพราะมีความผูกพันเป็นตัวที่ทำให้คนออกมาเรียกร้อง ถ้าเป็นอาคารที่ไม่ได้ผูกพันกับคน มันจะถูกทุบหายไปในกาลเวลาอย่างเงียบๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาพยายามตระเวนถ่ายภาพสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ให้ได้มากที่สุด-ให้เร็วที่สุด ไว้เพื่อเป็นภาพที่ระลึกว่าอาคารเหล่านี้มีความสำคัญ รวมถึงไว้ระลึกในวันพวกมันหายไป

ทำไมถึงสนใจถ่ายอาคาร
ตั้งแต่สมัยเรียนก็สนใจถ่ายรูป เวลาเรียนเราก็มีไปเปิดหนังสือดู ก็จะเห็นรูปอาคารสวยๆ ของต่างประเทศ จนทำให้เริ่มชอบถ่ายรูปอาคารเป็นอาชีพ เน้นกลุ่มอาคารโมเดิร์น เพราะมองว่าเป็นอาคารที่มีคุณค่าและไม่ค่อยมีคนสนใจเลยคิดว่าจะรวบรวมให้เกิดเป็นเรื่อวราว เพื่อให้คนตระหนักถึงคุณค่าของอาคารประเภทนี้โดยใช้ภาพถ่ายเรื่องเล่า
ภาพถ่ายเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ใช้สื่อสารกับคนดูได้ง่ายและกระตุ้นให้คนเห็นความสวยงามที่มองเห็นและถ่ายทอดออกไปทำให้คนทั่วไปเห็นคุณค่าของอาคารใกล้ตัวมากขึ้น ถ้าไปตามต่างจังหวัดบ่อย ๆ จะสังเกตเห็นอาคารโมเดิร์นที่มักจะอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ในแต่ละอำเภอย่อย ๆ ที่ตั้งอยู่ตาม วงเวียนหรือสี่แยก เพราะเป็นจุดสำคัญที่เห็นอาคารแต่มักจะไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรมากนัก
ถ่ายภาพสถาปัตยกรรมไม่น่ามีอะไรยาก ความจริงมันง่ายขนาดนั้นไหม
อยู่ที่การวางแผน อย่างน้อยเราต้องทำการบ้านมาก่อนว่าเราคิดยังไงกับตึกนี้ แล้วจะถ่ายมันออกมายังไง ทิศทางแสงเราต้องรู้ มันจะมีช่วงจังหวะที่เพอร์เฟกต์ ซึ่งเราจะคาดเดาได้ถ้าเราใส่ใจมัน แล้วพอทำงานไปเยอะขึ้น เราจะพอเดาได้ว่าเดี๋ยวสักพักมันจะเกิดอะไรขึ้น เช่น แสงตอนเช้าช่วงหกโมงเจ็ดโมงสวยกว่าอยู่แล้ว ตอนเย็นต้องช่วงแสงแบบ twilight ตอนกลางวันถ้าเราคิดว่าแสงมันไม่ได้บ่งบอกอะไร ไม่สวย ก็ไม่จำเป็นต้องถ่าย สิ่งพวกนี้เราคาดเดาได้ เราก็ไปตั้งกล้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

อาคารยุคโมเดิร์นพิเศษตรงไหน
มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากรัฐสมัยเก่าไปเป็นรัฐสมัยใหม่ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านในยุคก่อน ยุคนั้นเมืองเริ่มขยาย เมืองเริ่มวางแผนเศรษฐกิจแห่งชาติว่าอยากให้เมืองเติบโตไปยังไง มันเป็นการสร้างเมืองในอีกยุคหนึ่งของไทย เหมือนเป็นหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งที่ถูกทำไว้
ถ้าสังเกตเราจะเห็นพัฒนาการของเมืองว่าเป็นอย่างไร เราจะเห็นเลยว่าตามถนนสุขุมวิท สีลม สุรวงศ์ เพชรบุรีตัดใหม่ จะมีตึกพวกนี้ แล้วกระจายอยู่แค่นี้ มันจะไม่ออกไปถึงบางนา เพราะว่ายุคนั้นเมืองเจริญเท่านี้ ส่วนตามต่างจังหวัดก็ดูง่ายเลย มันจะเกาะกลุ่มกันตามตัวเมือง ตามถนนหลัก แม่น้ำสายหลัก ธนาคาร โรงภาพยนตร์ สถานที่ราชการ จะอยู่เป็นเครือข่าย พวกนี้มักจะต้องแย่งชิงทำเลที่ดี เช่น สี่แยก วงเวียนของเมือง ซึ่งถ้าวันหนึ่งอาคารเหล่านี้หายไป เราก็จะไม่เห็นอดีตที่เคยเจริญตรงนี้
ในฐานะที่เป็นคนนอกไปเห็นก็จะตื่นเต้นกับความสวยงามของอาคารนั้น ๆ แต่ในเมืองนอกจะเป็นการจัดทัวร์ที่พาเดินชมตึกต่าง ๆ คนที่สนใจก็มีอยู่บ้าง แต่ถ้าคิดดี ๆ อาจจะนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจได้ สถาปัยตกรรมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่จับต้องได้เป็นพื้นฐานของสังคมในแต่ละยุคสมัย ซึ่งมีคุณค่าในตัวเป็นหลักฐานการมีอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งที่เคยมี ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้เห็น คนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ในยุคประวัติศาสตร์ก็จะได้เปรียบเพราะว่าไม่ใช่ในทุก ๆ ที่เป็นประวัติศาสตร์ยาวนาน ถ้าใครเอาประวัติศาสตร์เหล่านี้มาต่อยอดมาทำอะไรต่อไปได้ จะทำให้เขามีต้นทุกมากกว่าคนอื่น
แล้วคุณตระเวนถ่ายรูปอาคารเก่า ๆ เหล่านั้นไปทำไม มันมีประโยชน์อะไร
ตอนแรกก็ถ่ายเอาสวยอย่างเดียว แต่พอทำไปทำมาก็รู้สึกว่าภาพถ่ายมันมีพลังบางอย่างที่กระตุ้นให้คนเข้ามาดูแล้วเห็นคุณค่าของสิ่งที่ถูกมองข้ามในชีวิตประจำวัน บางทีเราก็ถ่ายตึกที่ทุกๆ คนเห็นแล้วก็มองผ่านมันไป เราก็อาศัยพลังภาพที่ถ่ายออกมาแล้วสวย ทำให้คนที่มาดูฉุกคิด เห็นรูปแล้วอยากจะมาดูด้วยตาตัวเองจริงๆ ตระหนักขึ้นมาจริงๆ ว่ายังมีของพวกนี้อยู่รอบตัวถ้าเราสังเกต ผมคิดว่านี่คือพลังของภาพถ่าย


Foto Momo สอนอะไรคุณบ้าง
สอนว่าอยากทำอะไรต้องทำเลย คือความเสียดายนี่มันเป็นความฝังใจนะ แบบว่า เฮ้ย ไม่ทันแล้วว่ะ ตึกนี้ถูกทุบไปแล้ว อย่างเช่นโรงแรม Siam Intercontinental ที่เป็นสยามพารากอนในปัจจุบัน อันนี้ผมไปถ่ายไม่ทัน น่าเสียดาย สมัยนั้นยังไม่ได้เป็นช่างภาพเต็มตัว แต่เพื่อนบอกเราแล้วว่าเขาจะทุบ ไปถ่ายเก็บไว้สิ สวยดี แล้วสมัยนั้นมีรถไฟฟ้าแล้ว มุมจากข้างบนสวยเลย แต่ผมก็ไม่ได้ถ่าย ผัดวันประกันพรุ่ง ผ่านไปอีกทีกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแล้ว มันก็เลยเป็นแรงผลักดันว่าถ้าเราอยากทำอะไรให้รีบทำ ผมเลยทุ่มเวลาและเร่งค้นคว้าหาข้อมูลอาคารที่ใกล้จะถูกทุบแล้วรีบไปถ่าย