ชนะวิกฤต พลิกโอกาส ตอน คิดไว เริ่มไว มีชัยไปกว่าครึ่ง กับสถานการณ์ธุรกิจ และ NEW NORMAL
แม้วันนี้จะเริ่มมีมาตรการผ่อนคลาย เปิดให้บริการทางธุรกิจกันบ้างแล้ว แต่สิ่งที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือ คำที่เรียกว่า New Normal หรือ ฐานวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภคจะมีพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยต้องใช้วิธีรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ รวมถึงการปิดให้บริการในบางธุรกิจ ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อย
แม้วันนี้จะเริ่มมีมาตรการผ่อนคลาย เปิดให้บริการทางธุรกิจกันบ้างแล้ว แต่สิ่งที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือ คำที่เรียกว่า New Normal หรือ ฐานวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภคจะมีพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
‘ชนะวิกฤต พลิกโอกาส’ Overcome Crisis รายการที่จะพาคุณชนะวิกฤตด้วยโอกาส ในมุมมองของนวัตกรรม ผ่านทาง Facebook live NIA Academy กับตอนที่ 1 คิดไว เริ่มไว มีชัยไปกว่าครึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมาโดยมีวิทยากรที่มาร่วมแลกเปลี่ยนคือ ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคุณพุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท ผู้จัดการแผนกวิเคราะห์ข้อมูล บริษัทไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด
พฤติกรรมที่น่าสนใจในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคมให้ต่างไปจากเดิม คุณพุทธศักดิ์ให้ข้อมูลถึงการจับกระแสพฤติกรรมของคนในโลกออนไลน์ระหว่าง มี.ค.-พ.ค. ที่มีการล็อคดาวน์ว่า ถือเป็นช่วงที่วิถีชีวิตเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก โดยพบพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปคือ “Eating-Living-Social” เริ่มจาก Eating พฤติกรรมการกินที่มีทั้งการทำอาหารที่บ้านและการสั่งอาหารออนไลน์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว Living พฤติกรรมการใช้ชีวิต พบประเด็นการทำงานที่บ้าน หรือ work from home รวมถึง Fit at home ที่คนออกไปสวนสาธารณะไม่ได้ จึงเกิดคอร์สออกกำลังกายออนไลน์ และ Social ที่เกิดอารมณ์เบื่อ เศร้า เหงา เซ็งกับการอยู่ที่บ้าน tiktok จึงเติบโตขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือเอ็นเตอร์เทน

10 สิ่งที่คน Work from home พูดถึงมากที่สุดบนโซเซียล
- อินเทอร์เน็ต เพราะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานที่บ้าน
- สุขภาพและการออกกำลังกาย โดยส่วนใหญ่พูดถึงการดูแลสุขภาพทั้งในแง่โควิด การทำงาน และการออกกำลังกายที่บ้านเพื่อดูแลตนเอง
- เบื่อ เหงา เศร้า เซ็ง เหนื่อย คืออารมณ์ร่วมของพวกเรา ทำให้เกิดกิจกรรมสนุก ๆ บนโซเซียลมีเดียจาก Tik Tok
- เดลิเวอรี่ ทั้งการสั่งอาหารของผู้บริโภคและการโปรโมทของร้านอาหารต่าง ๆ ที่แทบทุกร้านมีบริการส่งเดลิเวอรี่ในช่วงเวลานี้
- อุปกรณ์สำหรับทำงานที่บ้าน สิ่งที่พูดถึงมากที่สุดคือ เก้าอี้และโต๊ะทำงาน
- อาการปวดเมื่อยและออฟฟิศซินโดรม พร้อมกับถามหาบริการนวดและร้านสปาที่ปิดตัวลง
- Shopping Online คืองานของเรา Lazada และ Shopee ถูกพูดถึงจำนวนมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่เคยเป็นห้างสรรพสินค้าก็ปรับตัวมาขายออนไลน์เพิ่มขึ้น
- การดูรีวิวบน Youtube โดยเฉพาะการรีวิวอุปกรณ์หรือสื่อเพื่อความบันเทิง เช่น Netflix รีวิวของเล่น หนัง เกม
- อยู่ดี ๆ ทุกคนก็กลายเป็นเชฟ โดยเฉพาะเนื้อหาการสอนทำอาหาร บอกสูตรทำอาหารที่บ้านแบบง่าย ๆ
- เพราะความอดทำให้เราหิวโหย โดยคำว่า “อยากกิน” มีข้อความสูงขึ้น 2 เท่า
ซึ่งหมูกระทะและชาบูมีการพูดถึงมากเป็นพิเศษ
“พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปคือ อะไรก็ได้ที่ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นเมื่อต้องอยู่คนเดียว และขณะเดียวกันก็มีวิธีการเข้าสังคมแบบใหม่ที่เป็นนวัตกรรม เช่น การประชุมผ่าน Zoom ซึ่งมียอดดาวโหลดแอปพลิเคชั่นสูงมาก การปรับตัวในภาคธุรกิจต้องตามสิ่งเหล่านี้ให้ทัน เพราะเราไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เช่น การพาตัวเองเข้าสู่ Platform online อย่างร้านหมูกระทะ ชาบูหมูกระทะ ที่เขาขายประสบการณ์การกินด้วยกัน ก็ปรับด้วยการกินด้วยกันที่บ้านแถมหม้อชาบู หรือเราไม่รู้ว่าสถานการณ์จะกลับมาเกิดระบาดอีกระลอกหรือไม่ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคโหยหาอาหารที่คลีนมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย จากเดิมที่ลดใช้พลาสติกเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่ตอนนี้ต้องกลับมาใช้อีกครั้งเพื่ออนามัย ดังนั้นการให้คุณค่าของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป ภาคธุรกิจจึงต้องตามเทรนด์เหล่านี้ให้ทันเป็นสิ่งที่จำเป็น”
เทรนด์ทางธุรกิจที่น่าจับตามอง คุณพุทธศักดิ์ มองว่า สุขภาพจะกลายเป็นธุรกิจที่น่าจับตา เพราะคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ตามด้วยระบบการเงิน อย่าง online banking เพื่อลดการสัมผัส หรือการกู้เงินจ่ายเงิน ของพรีเมี่ยมที่คนยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อรับความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึง VR AR เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการขายบ้านบนออนไลน์
“สิ่งที่ Start up ควรทำเพื่อสร้างความแตกต่างทางธุรกิจคือ 1.ข้อมูลผู้บริโภคให้ดี ทั้งข้อมูลภายในเช่น ช้อปอย่างไร นานไหม และเก็บข้อมูลจากภายนอกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 2.การสร้างประสบการณ์ตรงที่ดีให้กับผู้บริโภค หรือ User Experience 3.พยายามเข้าใจผู้บริโภคให้ชัดในแต่ละ Segment เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจออะไรในอนาคต ดังนั้นต้องฟังลูกค้าให้เยอะ ฟังเขาให้เข้าใจ Empathize เขาให้มาก เข้าไปนั่งในใจเขา เพื่อที่จะปรับตัวให้ไว”

เช่นเดียวกับ ดร.เกียรติอนันต์ ที่มองโลกหลังโควิด-19 ที่จะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลกให้หมุนเร็วยิ่งขึ้น
โควิด เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เร็วขึ้น การก้าวไปสู่โลกใหม่ มี 6 ขั้นตอนคือ
- Digitized สังคมเห็นความสำคัญของดิจิตอล
- Deceptive ซึ่งหลายคนมักตกหลุมพลางว่า ดิจิตอลมาแล้ว แต่ไม่ต้องรีบ ไม่ตระหนักว่าระดับของการเปลี่ยนแปลงจะไปลึก
- Disruptive เมื่อดิจิตอลไปเร็วทำให้ปรับเปลี่ยนไม่ทันกับเทคโนโลยี
- Demonetized โลกที่เงินสดจะเป็นเงินดิจิตอล ธุรกิจจะหมุนเร็วเช่นเดียวกับความต้องการ
- Dematerialized เทคโนโลยีทำให้ไม่มีความสำคัญทางกายภาพ เช่น การสร้างบ้าน หรือโรงงานที่ใช้ VR เพื่อให้เห็นภาพและการจำลองกำลังการผลิต
- Democratized โลกที่ทุกคนจะมีอำนาจในการเลือก มีอิสรภาพ เลือกคิดผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเหตุการณ์โควิดจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นให้อยู่ในระดับ 3-4-5 เพราะคนถูกบีบให้ต้องกักตัว ดิจิตอลจึงเข้ามาแทนที่เพื่อใช้ทดแทน

โมเดลทางธุรกิจหลังจากนี้ไปจะต้องเป็น Resilient คือ ไม่ได้มองกำไรสูงสุด แต่ต้องอยู่ให้รอดในภาวะฝุ่นตลบ การจะปรับตัวได้ต้องมี 3 Low คือ 1) Low cost ลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด 2) Low employment การจ้างงานที่ลดลงเพื่อลดต้นทุน และ 3) Low risk โมเดลธุรกิจใหม่คือใช้คนให้น้อยที่สุด ใช้เทคโนโลยีให้มากที่สุด เพื่อทันต่อการปรับตัวที่รวดเร็ว
เมื่อโลกทางเทคโนโลยีหมุนเร็ว ทักษะแรงงานและ Start up จะหมุนให้ทันอย่างไร
ดร.เกียรติอนันต์ สะท้อนว่า มีคนไม่ถึง 10% เท่านั้นที่เจอสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้วกลับมาใหม่ได้ ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องปรับตัวเพราะโจทย์ต่างไปจากเดิม เพราะดิจิตอลส่งผลให้หมุนเร็วขึ้น คนต้องเรียนรู้ให้กลายเป็นสัญชาตญาณ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ตัวเองว่าอะไรคือ Core skill รู้ว่าตัวเองเก่งอะไร แล้วเอาตรงนั้นมาพัฒนา เช่น ช่างเสริมสวย เปลี่ยนตัวเองเป็น beauty blocker และพัฒนาต่อเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านความงาม แต่ Core Skill ยังเป็นความเชี่ยวชาญด้านความงามอยู่
“ยุคหน้าต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ เสริมทักษะหลักให้เก่งขึ้นและเรียนรู้ทักษะอื่น ๆ เพื่อมาประกอบ และไม่ใช่เรียนรู้อย่างผ่าน ๆ ต้องสังเกตตามเทรนด์โลกให้ทัน ใครทำตัวเองตกงานก่อน คนนั้นได้เปรียบ อย่ายอมให้ใครมาไล่เราออกก่อน แต่ต้องยอม disrupt ตัวเอง ใครก็ตามที่สามารถปรับตัวได้ก่อน มีทักษะใหม่ได้ก่อนและสร้างอาชีพใหม่ได้ก่อน คนนั้นจะไปต่อได้”
ต่อจากนี้อาชีพจะถูกทำลายและเกิดอาชีพขึ้นใหม่เรื่อย ๆ นักวิชาการทั่วโลกก็ตอบไม่ได้ว่าอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีอาชีพอะไรบ้าง แต่เขารู้แค่ว่า ถ้าเป็นกลุ่มอาชีพสายนี้จะต้องมีทักษะอะไรบ้าง ดังนั้นการเรียนรู้ยุคใหม่จะต้องจับทักษะของตัวเองให้มั่น แล้วค่อย ๆ สังเกตโลกที่เปลี่ยนไป เรียนของตัวเองที่ลึกขึ้นแล้วปรับตัวให้เก่ง
โลกหลังจากนี้จะฝุ่นตลบมาก เศรษฐกิจจะชะลอตัว คนจะระวังการซื้อมากขึ้น ดังนั้นการปรับตัว Re skill - Up skill ของภาคธุรกิจและตลาดแรงงานเป็นสิ่งจำเป็น การก็อปปี้โมเดลธุรกิจจะไปเร็ว ดังนั้นผู้ประกอบการที่สำเร็จต้อง Disrupt ตัวเองให้เร็วก่อนที่คนอื่นจะมาก็อปปี้และทำลายเรา
“การใช้ข้อมูลจึงสำคัญที่สุดในยุคนี้ การที่มีข้อมูลจะบอกได้ว่า คนเดียวกันในแต่ละเวลาอยู่ในร่างไหน แล้วเราจะสร้างcontent อะไร เพื่อคลี่สิ่งที่อยู่ในใจของลูกค้า โดยดูความชอบและช่วงเวลาที่ชัดเจน เพื่อวางแผนการตลาดให้ถูกและสร้างจุดต่างได้ ความสามารถในการใช้ข้อมูลจึงเป็นอาวุธที่สำคัญในยุคนี้” ดร.เกียรติอนันต์ ทิ้งท้าย