โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน ประจำปี 2565 (CITY & COMMUNITY INNOVATION CHALLENGE 2022)
โครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน ประจำปี 2565 (CITY & COMMUNITY INNOVATION CHALLENGE 2022)
ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม NIA กำลังเฟ้นหาไอเดียนวัตกรรมดีๆ ที่สามารถผลักดันไปสู่การแก้ไขปัญหาสังคมในมิติต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นจริง ภายใต้โครงการ “นวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชนปี 2565” (City & Community Innovation Challenge 2022)
เปิดรับสมัคร 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2564
เสนอขอรับทุนได้สูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท/โครงการ
นวัตกรรมศิลปะ วัฒนธรรม และมานุษยวิทยา โดยมีหัวข้อที่เปิดรับ ได้แก่
- ความหลากหลายทางชาติพันธุ์
- การยกระดับภูมิปัญญาพื้นถิ่น
- ทัศนศิลป์
- ศิลปะการแสดง
- ศาสนา
นวัตกรรมบริการด้านสุขภาพและสวัสดิการเพื่อสังคม โดยมีหัวข้อที่เปิดรับ ได้แก่
- การดูแลสุขภาพสำหรับผู้ด้อยโอกาส
- นวัตกรรมสำหรับการส่งเสริมสุขภาพ
- หุ่นยนต์ทางการแพทย์สำหรับกลุ่มเปราะบาง
- นวัตกรรมข้อมูลด้านสุขภาพ
- แพลตฟอร์มสวัสดิการและประกันทางด้านสุขภาพ
นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่มีความสุข โดยหัวข้อที่เปิดรับ ได้แก่
- โอกาสในการทำงานที่มีคุณภาพ
- การใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การกระตุ้นพลังชีวิตด้วยกีฬาและการออกกำลังกาย
- มิตรภาพของสัตว์เลี้ยง
- ความสุขของการอยู่อย่างสันโดษ
คุณสมบัติของผู้เสนอโครงการ
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีการทำงานร่วมกับภาคเอกชนหรือภาคมหาวิทยาลัย เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจขององค์กรปกครองนั้นด้วยนวัตกรรม
- องค์กรเอกชน หรือ มหาวิทยาลัย ที่มีส่วนร่วมกับเมืองหรือชุมชน มีการทำงานร่วมกับคนในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ หรือประโยชน์ให้กับพลเมือง โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน
- มูลนิธิ สมาคม วิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ ที่ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่ และส่งผลกระทบอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
เป็นการเปิดรับข้อเสนอโครงการนวัตกรรม ที่สามารถแก้ปัญหาสำหรับเมืองและชุมชนในหัวข้อที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้กำหนด โดยผู้ผ่านเกณฑ์การสนับสนุนจะได้รับเงินสนับสนุนเพื่อดำเนินโครงการมูลค่าไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อโครงการซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การสนับสนุนโครงการที่สำนักงานฯ กำหนด ดังนี้
- การจ่ายเงินเพื่อให้การสนับสนุนผู้เข้าร่วมโครงการ จะเป็นลักษณะการเบิกค่าใช้จ่ายย้อนหลัง (reimbursement) ซึ่งผู้ได้รับการสนับสนุนจะต้องออกค่าใช้จ่ายในโครงการแต่ละงวดไปก่อนตามแผนงาน แล้ว สนช. จะทำการเบิกจ่ายให้เป็นรายงวด
- กรณีผู้ขอรับทุนเป็นภาคเอกชน จะต้องแสดงค่าใช้จ่าย (In-Cash) ส่วนของผู้ขอรับทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าโครงการ
- ไม่สามารถขอรับการสนับสนุนในนามของนักวิจัยโดยตรงได้ โดยผู้ยื่นขอรับการสนับสนุนต้องเป็นหน่วยงานที่นักวิจัยสังกัดอยู่เท่านั้น